โรงเรียนบ้านศิลางาม

หมู่ที่ 10 บ้านบ้านศิลางาม ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84340

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

077-380147

แมวสฟิงซ์ อธิบายเกี่ยวกับแมวพันธุ์สฟิงซ์แตกต่างจากแมวพันธุ์อื่นๆอย่างไร

แมวสฟิงซ์ แมวพันธุ์ยอดนิยมที่คุณมักจะเห็นตามคาเฟ่แมวคือสฟิงซ์หรือที่หลายคนเรียกว่าแมวไม่มีขน ได้ชื่อมาจากลักษณะของสายพันธุ์ นอกจากลักษณะที่ไม่มีขนหรือไม่มีขนแล้ว นิสัยใจคอของแมวสฟิงซ์ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ครองใจทาสหลายๆ คน เพราะเจ้าแมวสฟิงซ์ เป็นแมวขี้เล่น กระตือรือร้น และขี้สงสัย ใครหลงรักแมวตัวนี้โปรดติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความนี้ โยรายังระบุฟาร์มแมวไทยสฟิงซ์ไว้ท้ายบทความอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีราคาสำหรับสฟิงซ์ที่ตั้งชื่อตามสฟิงซ์อียิปต์โบราณ สฟิงซ์มีถิ่นกำเนิดในโตรอนโตเพราะความสวยงามและสง่างามในฐานะสัตว์เลี้ยงของฟาโรห์ มันถูกค้นพบครั้งแรกในแคนาดาในปี 1966 โดยเจ้าของแมวผู้ชื่นชอบแมวขนสั้น ฉันจึงลองเพาะแมวขนสั้นให้เป็นแมวฟีนิกซ์ หลังจากนั้นแมวสฟิงซ์ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เพาะพันธุ์แมวสามารถผสมพันธุ์สายพันธุ์ที่มียีนที่ดีกว่า ต่อมาเริ่มแพร่หลายไปยังที่อื่นๆ ยุโรปมากขึ้น รวมทั้งไทย และแมวสฟิงซ์ยังได้รับการขึ้นทะเบียนกับสมาคมแมวโลกอีกด้วย สฟิงซ์เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับแมวโดยสิ้นเชิง รูปร่างหน้าตาทำให้แมวดูเหมือนแมวดุร้าย แต่ความจริงแล้วสฟิงซ์เป็นแมวที่ขี้เล่นและกระตือรือร้น ขี้สงสัยและชอบอยู่ใกล้ๆ เดินผ่านทุกกิจกรรมกับเจ้าของ

พวกมันมีบุคลิกที่เป็นมิตรและแตกต่างจากแมวตัวอื่นๆ มาก แมวสฟิงซ์ชอบอยู่เป็นกลุ่มหรือกับแมวตัวอื่น ทำให้สามารถติดต่อกับสัตว์เลี้ยงและเด็กได้ แมวสฟิงซ์ยังเป็นแมวไม่มีขนที่ชอบนอนใกล้ๆ ต้องการความอบอุ่นหากใครกำลังหาซื้อสฟิงซ์ลักษณะเด่นของสฟิงซ์คือเป็นแมวขนาดกลางไม่มีขน แต่ความจริงก็คือแมวสฟิงซ์ทุกตัวมีขน แต่บางไม่แข็งแรง เช่น ขนหู จมูก เท้า ถุงอัณฑะและหลังหางไม่มีขน มีขนละเอียดมาก ให้ความรู้สึกเหมือนผิวลูกท้อแมวสฟิงซ์ลักษณะเด่นอีกอย่างคือรอยย่นบนผิวหนังของแมว แม้ว่าแมวสฟิงซ์จะไม่มีขนเช่นเดียวกับแมวตัวอื่นๆ แต่ก็มีสีสันและลวดลายที่หลากหลาย สีดำและสีช็อกโกแลตที่พันกันสามารถมองเห็นได้ในเม็ดสีของผิวหนังและขนละเอียด สีขาว สีฟ้า เป็นต้น หัวเป็นรูปสามเหลี่ยมและโดดเด่น ตาและหูขนาดใหญ่เอียงขึ้นที่ฐาน และดวงตามีสีเหลือง ส้ม น้ำเงินและสองสี หูใหญ่มีขนอยู่ข้างใน คอยาวปานกลาง

ลำตัวยาว มีกล้ามเนื้อ ท้องกลม หน้าอกกว้าง ขาหน้ายาวปานกลาง ขาหลังยาวกว่าขาหน้าเล็กน้อย หางยาวเท่าลำตัว ผอมยาวคล้ายแส้ อายุขัยประมาณ 15-20 ปี นอกจากนี้ ยังมีแมวสฟิงซ์อย่างน้อย 3 สายพันธุ์ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งรวมถึงสฟิงซ์ขาสั้นหูแหลม แบมบิโน เอลฟ์คือสฟิงซ์ที่มีขายาวและหูตั้งขึ้น และคนแคระคือสฟิงซ์ที่มีขาสั้นและหูกลับหัว

ในขณะที่แมวสฟิงซ์มีแนวโน้มที่จะเป็นแมวที่แข็งแรง แต่ก็มีอีกโรคหนึ่งที่เจอได้บ่อยในแมวสายพันธุ์นี้ นั่นคือโรคหอบหืดในแมว โรคหอบหืดในแมวเกิดจากการที่ทางเดินหายใจและปอดทำงานผิดปกติเมื่อสัมผัสกับสารระคายเคืองต่างๆ ทำให้เกิดเสียงหวีดหวิว การหายใจดังเสียงฮืดๆ เป็นอีกหนึ่งโรคที่สามารถพบได้ในแมวสฟิงซ์ สังเกตอุจจาระนิ่มหรือเหลวที่เกิดจากอาหารไม่ย่อยหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

หากพวกมันอาเจียนและท้องอืด ให้พาพวกมันไปหาสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกาย จ่ายยา และอาจเปลี่ยนอาหารเพื่อให้ย่อยได้ง่ายขึ้น เป็นอาการหัวใจวายที่เกิดจากผนังห้องล่างหนาผิดปกติ นอกจากโรคที่สามารถพบได้ในสฟิงซ์แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นโรคที่พบในแมวสายพันธุ์อื่นๆ ความเหนื่อยล้าและความอ่อนแอที่ทำให้หัวใจทำงานผิดปกติอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

หากคุณพบแมวที่มีอาการข้างต้น โปรดพาพวกมันไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยเพิ่มเติม สามารถเลี้ยงแมวสฟิงซ์ได้เช่นเดียวกับแมวตัวอื่นๆ แต่พวกเขาต้องการอาหารมากกว่าแมวที่มีขนาดเท่ากันเล็กน้อย สำหรับความร้อนในร่างกาย พวกเขายังสามารถให้อาหารสูตรต่างๆ ที่เหมาะสมกับวัย รวมถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งจะช่วยให้สฟิงซ์ของคุณดูดีและมีสุขภาพดี

ส่วนใหญ่แล้ว ลูกแมวจากฟาร์มพร้อมที่จะเริ่มสูตรลูกแมวตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่ออายุ 3 เดือน ให้แบ่งอาหารเปียกเป็นครั้งคราวเพื่อให้ลูกแมวสฟิงซ์กินได้มากขึ้น ซึ่งดีต่อการเจริญเติบโต ลูกแมวสฟิงซ์จะได้รับอาหารสามถึงสี่ครั้ง เมื่ออายุหกถึงเก้าเดือน อาหารแต่ละมื้อจะเพิ่มขึ้นเพื่อให้แมวของคุณมีพลังงานเพียงพอเมื่อสฟิงซ์มีอายุประมาณ 10 เดือน

พวกเขาสามารถเริ่มเปลี่ยนอาหารแห้งจากสูตรสำหรับทารกเป็นสูตรสำหรับผู้ใหญ่ได้ แนะนำให้ป้อนวันละ 2 ครั้ง และเลือกสูตรที่มีส่วนผสมของสกินแคร์และแฮร์แคร์ เพราะสฟิงซ์เป็นแมวไม่มีขน ผิวหนังสัมผัสกับอากาศและความร้อนโดยตรง อาหารที่ดีสามารถช่วยบำรุงผิวของคุณได้ เมื่อแมวสฟิงซ์โตขึ้น มันก็ต้องการการเอาใจใส่และอาหารมากขึ้นเหมือนแมวตัวอื่นๆ

ดังนั้นควรเลือกอาหารสูตรเฉพาะสำหรับแมวสูงอายุ เนื่องจากสฟิงซ์มีระบบทางเดินอาหารที่อ่อนแอ จึงควรติดตามการปรับอาหารอย่างใกล้ชิด หากคุณเติบโตในห้องปรับอากาศ คุณควรมีเตียงอุ่นๆ และโคมไฟอุ่นๆ ซึ่งรวมถึงการเลือกอาหารลูกแมวที่เหมาะสม สอบถามฟาร์มแมวก่อนได้นะคะ อาหารยี่ห้อใด หากคุณต้องการเปลี่ยนยี่ห้ออาหาร ให้ค่อย ๆ เปลี่ยน หรืออาบน้ำให้แมวไม่มีขนอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังจากเข้าอยู่

อย่างไรก็ตาม ต้องอาบน้ำให้บ่อยกว่าแมวขนยาวทั่วไป หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เนื่องจากผิวหนังของสฟิงซ์ขับเหงื่อและน้ำมันได้ง่ายกว่าแมวชนิดอื่น ดังนั้นการอาบน้ำปรนนิบัติผิวของคุณและทำความสะอาดเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี อย่าลืมใช้แชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยงที่อ่อนโยนและน้ำอุ่นในปริมาณที่พอเหมาะ เช็ดตัวให้แห้งทันทีหลังอาบน้ำ ไม่เย็นหรือร้อนเกินไป การทำความสะอาดหู แมวสฟิงซ์มีใบหูที่ใหญ่และมีขนที่หูน้อยหรือไม่มีเลย ฝุ่นจึงเข้าไปได้ง่าย

ดังนั้นหลังอาบน้ำทุกครั้ง ให้เช็ดหูด้วยทิชชูหรือผ้าสะอาด ทำความสะอาดหูชั้นในอีกครั้งด้วยน้ำยาเช็ดหูแมวและสำลีก้อนเล็กๆ ทำให้สิ่งสกปรกติดเล็บได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเข้าไปในกระบะทราย เจ้าของจึงต้องใช้กรรไกรตัดเล็บแมว โดยเฉพาะแมวสฟิงซ์ควรได้รับการดูแลผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ ผิวหนังของแมวสฟิงซ์ที่มีสิวเป็นส่วนที่สัมผัสกับอากาศโดยตรง เช่นเดียวกับผิวของเราที่มีความเสี่ยงที่จะอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวหัวดำ

ดังนั้นควรใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นเช็ดเป็นประจำ การรักษาอุณหภูมิของร่างกายเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพผิวหนังที่ตามมาถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับผู้เลี้ยง แมวสฟิงซ์ เพียงใส่ใจกับอุณหภูมิของห้องที่เลี้ยงแมว ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูงและเหงื่อออกง่าย แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับสภาพอากาศของประเทศไทย แต่เจ้าของต้องระวังเป็นพิเศษ เช่น ควรมีตะกร้าหรือที่นอนอุ่นๆ ให้แมวได้คลอเคลียด้วย

หากเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติควรอยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ป้องกันปัญหาคราบพลัคและเหงือกด้วยแปรงและของเล่นยาสีฟันสำหรับแมวโดยเฉพาะ นอกจากจะใส่ใจเรื่องความสะอาดและสุขภาพที่ดีแล้ว ควรมีเสาลับเล็บและของเล่นแมว เพราะแมวสฟิงซ์มีความซุกซน แสนรู้ และชอบปีนป่าย เรียกได้ว่าคุ้มเงินแน่นอน ตั้งแต่ 25,000-40,000 บาท ถึง 100,000 บาท ราคาเริ่มต้นของสฟิงซ์แต่ละตัวจะแตกต่างกัน

บทความที่น่าสนใจ เด็ก อธิบายความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมต่างๆของพ่อแม่ส่งผลกระทบต่อเด็ก